ทานอาหารที่มีต้นกำเนิดในท้องถิ่น ลดโลกร้อน และ ลดโรคเรา
อัปเดตเมื่อ 11 พ.ค. 2563
"You are what you eat" อาหารที่เรากินกันเข้าไปทุกวันวันละสามมื้อนั้น แม้ในที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นของเสียที่ ร่างกายถ่ายออกมา แต่ระหว่างที่มันอยู่ในร่างกายของเรานั้น มันเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของเรา ถ้าเรากินอาหารเข้าไปโดยไม่พิจาณาถึงที่มาที่ไปและอันตรายต่างๆที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง โรคภัยต่างๆและความผิดปกติในร่างกายล้วนแต่สัมพันธ์กับสิ่งที่คนๆนั้นรับประทาน เช่น การดื่มกาแฟเข้ม ในตอนเช้า จะทำให้เกิดอาการหิวจนมือสั่น ในเวลาประมาณ 11.00 น. ต่อมาประมาณบ่าย 14.00 น. จะรู้สึกง่วง งง มึน สมองตื้อ ปวดเมื่อย หงุดหงิด นั่งไม่ติด หรือหากรับประทานของหวานในตอนเที่ยง หลังจากนั้น 2-3 ชม.จะก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน อีกตัวอย่างหนึ่งคือถ้ารับประทานของหวานมากๆ หรือของมันมากๆ หลังจากนั้น 48 ชม. จะมีสิวขึ้นรอบปากในรัศมี 2 นิ้ว นี่เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเบาที่ไม่ค่อยจะส่งผลร้ายต่อผู้บริโภคนัก
แต่ที่ส่งผลร้ายมากกว่านั้นยังมีอีกมากมายหลายประเด็นที่ อาจจะทำให้การรับทานอาหารของคุณอาจจะเป็นการ ฆ่าตัวตายอย่างช้าๆวิธีหนึ่ง นั่นเป็นเพราะในยุคสมัยปัจจุบันอาหารที่เรากินกันเข้าไปมันผ่านการปรุงแต่ง ผ่านการดัดแปลง ด้วยเหตุผลต่างๆมากมายที่จะทำให้อาหารนั้น กลายเป็นสิ่งที่อันตรายต่อผู้บริโภค เช่นยาฆ่าแมลง การตัดแต่งพันธุกรรม โรคอันตรายที่เกิดขึ้นแก่มนุษย์ชาติหลายโรค เพิ่งจะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี่เอง เช่นมะเร็ง วัณโรค ดังนั้นพอจะคลำหาสาเหตุของโรคภัยนี้ได้ว่า ต้นเหตุมาจากการที่มนุษย์เข้าไปก้าวก่ายกับธรรมชาตินี่เอง การหยุดคิดเรื่องทุกเรื่องในชีวิตสักครู่หนึ่ง แล้วย้อนกลับไปตรองดูว่าชีวิตประจำวันของคุณทำอะไรที่มันไปคนละทางกับธรรมชาติบ้าง แล้วรีบลดละหรือเลิกเสียนั่นจะเป็นทางด่วนที่จะนำชีวิตคุณไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้น เคยบ้างไหมครับที่ในบางครั้งที่คุณต้องเดินทางไปไกลๆ อาจจะเป็นต่างถิ่น หรือ ต่างประเทศ เมื่อไปรับทานอาหารท้องถิ่นของที่นั้นๆแล้ว ท้องไส้คุณแสดงอาการปฏิเสธ ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆเพราะกระเพาะ และ ลำไส้ของคุณไปอยากให้อาหารที่มันไม่คุ้นเคยเข้าไปอยู่ในร่างกายคุณนานๆ เป็นเพราะร่างกายของคุณถูกออกแบบมาให้ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมอันเป็นถิ่นกำเนิด ระบบต่างๆของร่างกายถูกจัดระเบียบของกลไกภายในให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมอย่างหนึ่ง เมื่อมีอาหารแปลกปลอมผิดไปจากความคุ้นเคยของร่างกาย ร่างกายก็ปฏิเสธทันที เหมือนเครื่องเบนซิน เอาน้ำมันดีเซลมาเติม รถมันก็ไม่วิ่ง สุดท้ายเครื่องก็จะพังเอา การไปกินอาหารต่างถิ่น หรือ เอาอาหารต่างถิ่นมากิน ผลก็เท่ากันนั่นก็คือ ร่างกายไม่รับ หรือ บางคนอาจจะรับแต่ร่างกายก็ดูดซึมเอาอาหารนั้นไปใช้ได้ไม่เต็มคุณค่าทางอาหาร ร้ายไปกว่านั้นก็คืออาหารที่มาจากต่างถิ่นเราไม่รู้ถึงอันตรายแอบแฝงที่ติดมากับอาหารนั้น
ผักพื้นบ้านในไทยหลายชนิด มีความต้านทานต่อแมลงท้องถิ่น เกษตรกรสามารถเก็บมาขายได้โดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เช่นชะอม กฐิน มะรุม ผักกูด ผักตำลึง ความสดและรสชาติก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อาหารท้องถิ่นได้เปรียบและมีประโยชน์กว่าอาหารต่างถิ่น ข้าวโพดที่หักต้มสดๆจะมีรสชาติดี หวานอร่ายเพราะ เอนไซม์ในข้าวโพดยังอยู่ แต่ถ้าทิ้งข้าวโพดเอาไว้สักสองสามวันนำมาประกอบอาหารข้าวโพดจะไม่หวานเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเอนไซม์มันสลายตัวไปแล้ว ระยะเวลาของการเดินทางของอาหารมาถึงจานคุณนั่นแหละทำให้อาหารหมดอร่อย และ หมดคุณค่าทางอาหารลงไป ประเด็นในทางเศรษฐกิจก็ควรจะคำนึงถึงด้วยว่าการนำเข้าอาหารต่างถิ่นนั้นทำให้เราต้องขาดดุลการค้า เงินตราไหลออกนอกประเทศแทนที่จะอยู่ในมือเกษตรกรบ้านเรา การกินอาหารต่างถิ่นนี่เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการใช้พลังงานแบบมหาศาล กล้วยจากอเมริกาไต้กว่าจะเดินทางไปถึงอเมริกาเหนือ เนยแข็งจากเดนมาร์ค เดินทางมากรุงเทพ กีวีฟรุ๊ต จากนิวซีแลนด์ เดินทางไปญี่ปุ่น ทุเรียนจากเมืองจันทบุรีเดินทางไปปักกิ่ง การเดินทางแต่ละเส้นทางเป็นระยะทางกว่าพันไมล์ ก่อนหน้านั้นก็ต้องใช้ระบบบรรจุภัณฑ์ และระบบทำความเย็นตลอดระยะทางที่ขนส่งอาหาร ถ้าเราเห็นแก่สุขภาพ และ กระเป๋าสตางค์ของตัวเอง เห็นแก่เกษตรกรผู้เป็นเพื่อนร่วมชาติ เห็นแก่เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และเห็นแก่ภาระทางสิ่งแวดล้อมที่โลกต้องแบกรับอยู่อย่างโดดเดี่ยว กลับมากินอาหารที่มีถิ่นกำเนิดในท้องถิ่นกันดีกว่า.