ไม่อ้วนเอาเท่าไร
จานซ้ายข้าวขาหมู จานขวาแกงจืดเต้าหู้ น้อยคนที่จะเลือกแกงจืดเต้าหู้ และ ออกไปวิ่งออกกำลังกายนอกบ้าน กับ นอนดูซีรี่ย์เกาหลีบนเตียงนุ่มๆ ก็มีน้อยรายที่จะเลือกไปวิ่งออกกำลังกายนอกบ้านเช่นกัน คนส่วนใหญ่เลือกกินข้าวขาหมูเสร็จแล้วก็นอนดูทีวีอยู่กับบ้าน คนส่วนใหญ่จึงกลายเป็นโรคอ้วน เพราะพลังงานขาเข้ามันเยอะกว่าพลังงานที่ใช้ออก ส่วนที่เกินร่างกายจึงเปลี่ยนเป็นไขมันไปพอกไว้ที่หน้าท้อง เก็บไว้เป็นพลังงานส่วนสะสมไว้ใช้ในยามจำเป็น กลไกของธรรมชาติเราออกแบบการใช้งานพลังงานส่วนเกินไว้เช่นนี้ เนื่องจากธรรมชาติเตรียมการให้ร่างกายของเราต้องสะสมพลังงานเอาไว้ ในยามต้องวิ่งหนีเสือหนีช้าง ในยามศึกสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ หรือ ในยามเกิดภัยธรรมชาติอาหารการกินไม่มีจะกินเป็นแรมเดือนแรมปี ธรรมชาติไม่ได้คิดมาก่อนว่าเราจะมีเซเว้นอยู่ใกล้บ้านทุกหลังในประเทศแบบนี้ หิวเมื่อไรก็แวะมา ความจำเป็นของการมีไขมันสะสมในสังคมปัจจุบันหมดไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ผลที่ได้รับก็คือมีคนเดินพุงแอ่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้คุณกลายเป็น “โรคอ้วน” หนึ่งในสิบแปดล้านคนของประเทศนี้ไปแล้ว ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ให้นิยามของโรคอ้วนไว้ว่า “ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันส่วนต่างๆ ของร่างกายเกินปกติ จนเป็นปัจจัยเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ที่ส่งผลถึงสุขภาพ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้
ปัจจุบันคนอ้วนถือเป็นภาวะของการเป็น “โรค” เพราะความอ้วนส่งผลให้สุขภาพโดยรวมไม่แข็งแรง ส่งผลต่อสมรรถนะในการทำงาน การใช้ชีวิต บางคนอ้วนมากจนช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เคลื่อนตัวไปไหนมาไหนลำบาก เมื่อเราเริ่มอ้วนก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง มีปัญหาในการหายใจ มักเป็นโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายโรค เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร แต่ที่จะขู่คนได้มากและได้ผลที่สุดคือ อ้วนแล้วไม่สวย ไม่หล่อ ด้วยเหตุนี้ความอ้วนจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัว และ ไม่น่าดู สาวๆ หนุ่มๆ และ แก่ๆ ทุกคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงด้วยวิธีการต่างๆนาๆ ที่จะนำพาตัวเองให้พ้นจากโรคอ้วนให้ได้ รวมไปถึงวิธีการที่อันตรายเช่นการใช้ยาลดความอ้วนซึ่งมีข่าวออกมาปรากฏผ่านตาบ่อยมากว่า มีผู้ใช้ยาลดความอ้วนแล้วเป็นอันตรายถึงชีวิต โปรดจำให้ขึ้นใจไว้เลยว่าการลดความอ้วนไม่มีทางลัดตัดไปถึง ใครเลือกที่จะไปทางลัดโอกาสตกเหวลงไปตายข้างทางมีสูงมาก เพราะยาลดความอ้วนที่มีอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่มีผลเข้าไปแทรกแซงการทำงานของอวัยวะภายในให้ผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติ
ส่วนประกอบของยาลดความอ้วนในท้องตลาดจะสามารถแบ่งตามการออกฤทธิ์ของยา ได้ดังต่อไปนี้
๑.ยาลดความอ้วนที่เป็นยาชุดหลายชนิดประกอบกัน เพื่อช่วยเสริมผลในการลดน้ำหนัก เช่น ยาลดความอยากอาหาร ชื่อ เฟนเทอร์มีน (phentermine) ยาธัยรอยด์ฮอร์โมน ยาขับปัสสาวะ และยาระบาย ยาชุดเหล่านี้มีอันตรายอย่างมากโดยเฉพาะการซื้อมาใช้เอง การทำงานของยาชุดจะเข้าไปเผาผลาญพลังงานในร่างกาย แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่มากไปจะเข้าไปทำลายโปรตีนของกล้ามเนื้อแทน ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคืออาการใจสั่น
๒.เป็นยาระบาย เป็นความเชื่อที่ผิดที่คิดว่าทานอาหารเข้าไปแล้วถ่ายออกโดยเร็วจะลดความอ้วนได้ แต่หารู้ไม่ว่าการที่เราใช้ยาระบายแล้วน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วนั้น ส่วนมากเป็นเพราะน้ำในร่างกายลดลงแต่ในส่วนของไขมันไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด การทานยาเหล่านี้เป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อระบบขับถ่ายหากไม่ใช้ยาระบายจะขับถ่ายได้ยากกว่าปกติ และยังสางผลเสียระยะยาวต่อระบบหัวใจด้วย
๓.เป็นยาความอยากรับทานอาหาร จะทำหน้าที่ลดการทำงานของศูนย์ควบคุมความหิวบริเวณด้านข้างของสมองส่วนไฮโปธาลามัส ทำให้มีการเพิ่มปริมาณสารสื่อประสาท 2 ชนิด คือ นอร์อีพิเนฟริน และ โดปามีน ที่สมอง จึงมีผลทำให้ลดความอยากอาหารลงอย่างมาก อย่างไรก็ดีสารสื่อประสาทเหล่านี้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความอยากอาหารแล้วยังส่งผลกระทบอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพชีวิตได้ เช่น ทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย มีอาการเคลิ้มฝัน ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ ท้องผูก มองเห็นภาพไม่ชัด มองเห็นสีผิดปกติไปจากเดิม และผลจากการเพิ่มสารสื่อประสาทโดปามีนอาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อจิตประสาททำให้กระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ จึงทำให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน เลือดที่ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้หัวใจต้องทำงานมากเกินกว่าปกติซึ่งเป็นตัวการทำให้สุขภาพภายในร่างกายแย่ลงเป็นอย่างมาก
การลดความอ้วนให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุดก็คือการ ลดอาหารที่ให้พลังงานสูง และ ออกกำลังกายให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้น มากกว่าจำนวนพลังงานที่ทานเข้าไปหลักการมีสั้นๆแค่นี้ การไม่อ้วนนั้นดี แต่ ถ้าต้องเสี่ยงตายก็อ้วนต่อไปอีกสักหน่อยก็พอได้ รออ่านให้ถึงบทความต่อไปเพราะบทความชิ้นต่อไปจะบอกให้หมดถึงการลดความอ้วนแบบธรรมชาติบำบัดนั้นต้องทำเช่นไรบ้าง ไม่เสี่ยงชีวิต ไม่ทรมานจากการอดอาหาร โปรดติดตามครับ.